ไม้พื้นลามิเนต ผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงโดยกรรมวิธีนำไม้ ที่เหลือจากการแปรรูปทางการเกษตร ในประเทศที่เหมาะสมกับสภาพอากาศในประเทศไทย มาบดละเอียด จนเป็นเส้นใยแล้วนำมาผสมเรซินอัดด้วยความร้อน และแรงดันสูง จนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทนต่อแรงกดทับ
เป็นพื้นไม้ที่แข็งแรง มีความทนทานสูง ทั้งยังมีการเคลือบผิวหน้าด้วย Overlaying Film ป้องกันการขูดรีด และแรงกดกระแทกทุกชนิด สีไม่ซีดจาง
สามารถทำความสะอาดง่าย สามารถติดตั้ง และรื้อถอนได้โดยไม่มีคราบกาว และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
บัวเชิงผนัง (skirting) ใช้สำหรับติดขอบพื้นปิดช่องระหว่างรอยต่อพื้นไม้ลามิเนตกับผนัง หรือกำแพง เพื่อให้เกิดความสวยงามและกันสิ่งสกปรกต่าง ๆ
ตัวจบเก็บขอบ (Edging) ใช้สำหรับติดขอบพื้น ปิดช่องระหว่างรอยต่อพื้นไม้ลามิเนตกับผนังหรือกำแพง เพื่อให้เกิดความสวยงามและกันสิ่งสกปรกต่าง ๆ
ตัวจบระดับเดียวกัน (Joint or T-Moulding) ใช้สำหรับเชื่อมรอยต่อระหว่างพื้นไม้ลามิเนตกับ ผิวพื้นไม้ที่แตกต่างกัน หรือพื้นผิวอื่น เช่น พรมแต่มีระดับความสูงต่ำที่เท่ากัน
ตัวจบต่างระดับ (Transition) ใช้สำหรับเชื่อมรอยต่อระหว่างพื้นที่ 2 พื้นที่ที่ใช้วัสดุแตกต่างกันหรือเหมือนกันแต่มีระดับความสูงต่ำที่ไม่เท่ากัน
จมูกบันได (Stair Nosing) ใช้จบขอบบันไดเพื่อเก็บมุมของบันได โดยใช้เชื่อมที่ตัวลูกนอนของนั้นบันได
ลูกบัว (Quarter Round) ใช้ปิดช่องระหว่างพื้นไม้และผนังหรือพื้นไม้และเฟอร์นิเจอร์ Build-in
แผ่นโฟมลามิเนต (PE Foam) ใช้สำหรับรองพื้นก่อนปูไม้พื้นลามิเนต ป้องกันความชื้น ช่วยลดเสียงสะท้อน และเพิ่มความนุ่มเท้าขณะเดิน มีความหนา 2 มม.
1.ปูแผ่นโฟมลามิเนต PE Foam เพื่อช่วยลดเสียงสะท้อนเพิ่มความนุ่มเท้าขณะเดิน ให้ด้านที่มีแผ่นพลาสติกอยู่ด้านล่างเพื่อป้องกันความชื้น และจัดวางให้ปลายแผ่นโฟมชิดกัน ไม่ซ้อนทับกันแล้วติดด้วยเทปกาว
2. วางลิ่มหนา 12-15 มม. ที่ริมผนัง เพื่อเป็นช่องว่างให้ไม้พื้นลามิเนตได้ขยายหรือหดตัวตามธรรมชาติ
2. วางลิ่มหนา 12-15 มม. ที่ริมผนัง เพื่อเป็นช่องว่างให้ไม้พื้นลามิเนตได้ขยายหรือหดตัวตามธรรมชาติ
3. กำหนดรูปแบบและทิศทางการติดตั้ง เนื่องจากต้องมีการคำนวนเผื่อเศษสูญเสียในการติดตั้ง : แบบต่อเนื่อง (Random) เพื่อสูญเสียอย่างน้อย 5% และแบบก่ออิฐ(Brick) 15%
4. ติดตั้งไม้พื้นลามิเนตโดยวางแถวแรกให้ด้านที่เป็นลิ้นหันเข้าหาผนัง ควรติดตั้งจากซ้ายไปขวา
5. ประกอบแผ่นที่ 2 เข้ากับแผ่นแรกไปทางด้านขวาเอียงประมาณ 45 องศา แล้วกดลงเพื่อให้ไม้เท้าล็อคโดยใช้ค้อนยางเคาะเบาๆ ให้รอยต่อสนิท
4. ติดตั้งไม้พื้นลามิเนตโดยวางแถวแรกให้ด้านที่เป็นลิ้นหันเข้าหาผนัง ควรติดตั้งจากซ้ายไปขวา
5. ประกอบแผ่นที่ 2 เข้ากับแผ่นแรกไปทางด้านขวาเอียงประมาณ 45 องศา แล้วกดลงเพื่อให้ไม้เท้าล็อคโดยใช้ค้อนยางเคาะเบาๆ ให้รอยต่อสนิท
6. ปูไปทางด้านขวาต่อไปจนสุดห้อง โดยแผ่นสุดท้ายต้องใส่ลิ่มหนา 15 มม. ด้วยทุกครั้ง
7. ปูลงมาด้านล่างจนหมดห้องโดยแผ่นเริ่มต้นและแผ่นสุดท้ายใส่ลิ่มหนา 15 มม. ด้วยทุกครั้ง
7. ปูลงมาด้านล่างจนหมดห้องโดยแผ่นเริ่มต้นและแผ่นสุดท้ายใส่ลิ่มหนา 15 มม. ด้วยทุกครั้ง
8. หากพื้นที่มีขนาดใหญ่กว่า 8X12 เมตร ต้องติดตั้งตัวแบ่ง(ตัวจบระดับเดียวกัน) เพื่อรองรับการขยายตัวของไม้พื้น
9. ติดตั้งอุปกรณ์ไม้พื้นลามิเนตเพื่อเก็บความเรียบร้อย เช่น บัวเชิงผนัง,ตัวจบเก็บขอบ ชนิดต่างๆ
9. ติดตั้งอุปกรณ์ไม้พื้นลามิเนตเพื่อเก็บความเรียบร้อย เช่น บัวเชิงผนัง,ตัวจบเก็บขอบ ชนิดต่างๆ
- ไม่ให้มีความชื้นเข้าภายในสถานที่ที่ติดตั้งไม้พื้นเสร็จแล้ว ในกรณีที่มีน้ำหกหรือน้ำอยู่บนแผ่นไม้พื้น ให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดน้ำทันที ห้ามปล่อยให้น้ำทิ้งไว้
- ไม้พื้นลามิเนตเป็นวัสดุที่ทำความสะอาดได้ง่าย เพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ ก็สามารถเช็ดคราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออก ไม่ควรใช้ผ้าเปียกในการทำความสะอาด
- ไม่ควรใช้น้ำยาขัดเงา หรือน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ทุกประเภทขัดถูไม้พื้นลามิเนต
- ระวังไม่ให้วัสดุประเภทสีน้ำมันหรือทินเนอร์หยดลงบนไม้พื้น
- หลีกเลี่ยงการขูดขีดจากของแข็งหรือของมีคม เช่น ขาเก้าอี้ที่แหลมคม มีดคัตเตอร์ และควรใช้แผ่นผ้าสักหลาดหรือแผ่นยางรองด้านล่างของหาเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ
Powered by
MakeWebEasy.com